
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว คือ การรักษาหลุมสิวด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปในบริเวณหลุมสิว เพื่อเติมเต็มให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเห็นผลเร็วและไม่ต้องพักฟื้นนาน โดยการ เติม Filler หลุมสิว จะแตกต่างจากวิธีรักษาหลุมสิวแบบอื่น ๆ อย่างไร ? และเหมาะกับใคร ? Goodlybeauty จะพามาไขข้อข้องใจกันในบทความนี้ครับ
คลิกอ่านหัวข้อ ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว คืออะไร ?

ฟิลเลอร์หลุมสิว คือ การรักษาหลุมสิวด้วยการฉีดสารเติมเต็ม ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกับที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า โดยสารนี้มีคุณสมบัติช่วยอุ้มน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นในผิวชั้นลึก
เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณหลุมสิว จะช่วยเติมเต็มผิวให้ดูตื้นขึ้นทันที พร้อมทั้งปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง ร่องลึกดูตื้นขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว
ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่ดูสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่เปลี่ยนแปลงรูปหน้า หลังฉีดสามารถเห็นผลได้ทันที ไม่มีรอยแผล และไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วน
คลิกอ่านเพิ่มเติม : ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) คืออะไร ? มีประโยชน์ต่อผิวอย่างไรบ้าง ?
ฟิลเลอร์หลุมสิว รักษาหลุมสิวได้อย่างไร ?

การ ฉีด Hyaluronic หลุมสิว ทำงานโดยการเติมเต็มพื้นที่ผิวที่เป็นหลุมลึกหรือร่องรอยจากสิวให้มีระดับความเรียบเนียนเทียบเท่ากับบริเวณผิวส่วนอื่น ๆ ในขั้นตอนการรักษา แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กเติมฟิลเลอร์หลุมสิวอย่างแม่นยำ ซึ่งไฮยาลูโรนิก แอซิดในฟิลเลอร์จะทำหน้าที่ ดังนี้
- เติมเต็มพื้นที่หลุมสิว
สาร Hyaluronic Acid ช่วยปรับสภาพพื้นผิวที่เป็นรอยหลุมสิวให้ดูเรียบเสมอ ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว
เมื่อฟิลเลอร์อยู่ในชั้นผิว จะช่วยกระตุ้นกระบวนการผลิตคอลลาเจนของผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวบริเวณนั้นมีความยืดหยุ่นและแข็งแรงขึ้น
- เพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้ผิว
Hyaluronic Acid เป็นสารที่สามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่าหลายเท่าของน้ำหนักตัว ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น และลดความแห้งกร้านที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย
- ลดเลือนริ้วรอยและปรับผิวให้เรียบเนียน
ฟิลเลอร์ไม่เพียงช่วยรักษาหลุมสิว แต่ยังช่วยปรับสภาพผิวในบริเวณใกล้เคียงให้ดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
ฟิลเลอร์หลุมสิว เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร็ว ไม่ต้องใช้เวลานานในการรักษา
- ผู้ที่ไม่อยากมีขั้นตอนดูแลยุ่งยากหลังทำ
- ผู้ที่มีหลุมสิวไม่มาก หรือเป็นหลุมสิวบ้างบางจุด
- ผู้ที่มีรอยแผลเป็นจากอีสุกอีใส (Chickenpox) หรือแผลจากการบาดเจ็บ
- ผู้ที่มีหลุมสิวระดับทั่วไปและปานกลาง เช่น Rolling Scar (หลุมสิวกว้าง ขอบมน) หรือ Box Scar (หลุมสิวลึก ขอบเหลี่ยม)
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวลึกและแคบแบบ Ice Pick Scar อาจต้องตัดพังผืดใต้หลุมสิว (Subcision) หรือเลเซอร์ ก่อนฉีด Filler เติมหลุมสิว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ

เปรียบเทียบการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว กับการรักษาด้วยวิธีอื่น
การฉีดฟิลเลอร์เติมหลุมสิว แตกต่างจากการรักษาหลุมสิววิธีอื่น ๆ โดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่เกิดแผลหรือสะเก็ด และสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง เติมความชุ่มชื้น และทำให้ผิวดูอิ่มน้ำขึ้น
นอกจากนี้ ยังสามารถทำควบคู่ไปกับหัตถการรักษาหลุมสิววิธีอื่น ๆ ทั้งวิธีทางการแพทย์และวิธีทางธรรมชาติ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยวิธีการรักษาหลุมสิวอื่น ๆ ได้แก่
การตัดพังผืดหลุมสิว (Subcision)

การตัดพังผืดหลุมสิว (Subcision) คือการใช้เข็มขนาดเล็กตัดพังผืดใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและทำให้หลุมสิวดูลึกน้อยลง เหมาะกับหลุมสิวตื้น ๆ ขนาดประมาณ 3-5 มม.
เช่น Rolling Scar หรือ Box Scar หลังทำเห็นผลเต็มที่ใน 1 เดือน แต่ควรทำ 3-5 ครั้ง และต้องพักฟื้น รวมถึงดูแลแผลให้ดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อใต้ผิวหนัง
การกรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี (Microdermabrasion หรือ MD)

การกรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี (Microdermabrasion) เป็นวิธีรักษาหลุมสิวด้วยการผลัดเซลล์ผิวเก่าบนชั้นผิวด้วยผง Aluminum Oxide หรือ Sodium Bicarbonate ขนาดเล็กกว่า 100 ไมครอน
ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้หลุมสิวดูตื้น ผิวเรียบเนียนขึ้น แต่ข้อเสียคืออาจทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง บอบบาง และต้องทำซ้ำ 5-10 ครั้งเพื่อเห็นผลชัดเจน
การใช้ยาลดหลุมสิวกลุ่มวิตามินเอ

การใช้ยาลดหลุมสิวในกลุ่มวิตามินเอ เช่น Retin A, Retinoid หรือ Retinol ช่วยผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นคอลลาเจน และลดการอักเสบ ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น แต่ควรระวังผลข้างเคียง เช่น ผิวแห้ง แสบ แดง และห้ามใช้ในผู้ตั้งครรภ์ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
การผ่าตัดหลุมสิวลึก (Punch Excision)

การผ่าตัดหลุมสิว คือ การตัดหลุมสิวลึกออกแล้วเย็บปิด เหมาะสำหรับหลุมสิวลึกระดับรุนแรง (Ice pick scar) ที่เป็นมานาน และหลุมสิวระดับปานกลาง (Box Scar) ที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่หาย
ซึ่งควรทำโดยแพทย์ประสบการณ์สูง หลังทำต้องระมัดระวังในการดูแลตัวเองมาก ควรเลี่ยงแดดและน้ำ 3 วัน ตัดไหมใน 1 สัปดาห์ จากนั้นรอยแผลจะจางใน 2 เดือน และควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า
การเลเซอร์รักษาหลุมสิว (Laser Treatment)

การทำเลเซอร์หลุมสิว เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก เพราะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้จะเห็นหลังจากทำประมาณ 3-4 ครั้ง โดยมีช่วงเวลาพักฟื้นประมาณ 2-3 สัปดาห์ อาจมีผิวแดงและตกสะเก็ดได้หลังทำ จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้หน้าเร็ว ต้องออกงาน หรือพบปะผู้คน
การดูแลหลุมสิวด้วยธรรมชาติ

การใช้สมุนไพรหรือผลไม้ เช่น มะเขือเทศ ว่านหางจระเข้ มะขาม หรือมะนาว ช่วยรักษาหลุมสิวได้ แต่ต้องทำต่อเนื่องจึงจะเห็นผล ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลเร็ว และอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือเกิดสิวใหม่ได้ ในคนที่มีผิวแพ้ง่าย
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
การดูแลตัวเองหลังฉีด Filler หลุมสิว เพื่อรักษาหลุมสิวเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้น และลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง โดยแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส เช่น การแตะ แกะ เกา หรือกดนวด บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
- หลังฉีดฟิลเลอร์ อาจมีอาการบวม แดง หรือเขียวช้ำได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ อาการเหล่านี้จะดีขึ้นเองภายใน 7-14 วัน
- ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนัก หรือออกแดด อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- งดทำเลเซอร์ร้อนที่ลงลึกในผิวทุกชนิดเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะน้ำช่วยให้ฟิลเลอร์ดูฟูและเข้ารูปได้ดี ควรดื่มน้ำประมาณ 1.5-2 ลิตรต่อวัน
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้การยุบบวมช้าลงและทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้ไม่นาน
- หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่อาจทำให้บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้าลง เช่น
- อาหารที่ต้องทำหน้าเตาร้อน เช่น หมูกระทะ ชาบู
- อาหารหมักดอง อาหารที่มีรสเผ็ดจนทำให้หน้าแดง อาหารหวานจัด และอาหารดิบจากร้านที่ไม่ได้มาตรฐานความสะอาด
ฟิลเลอร์หลุมสิว ราคาเท่าไหร่ ? ใช้ยี่ห้อ / รุ่นไหนได้บ้าง ?
ในการฉีดรักษาหลุมสิวด้วยฟิลเลอร์ ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์และปริมาณที่ใช้ โดยแต่ละคลินิกอาจมีโปรโมชันแตกต่างกัน
แล้วสำหรับใครที่สงสัยว่าควรฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ? ต่อไปนี้คือ list ของยี่ห้อ/รุ่นที่นิยมใช้สำหรับการฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิวครับ

- Restylane Vital Light : ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เจลอนุภาคเล็ก มีความยืดหยุ่นสูง เพราะมีเทคโนโลยี NASHA ที่ทำให้สามารถอุ้มน้ำได้ดี เหมาะกับการเติมเต็มหลุมสิว ราคาเริ่มต้น 12,000 บาท / 1 CC

- Juvederm Volite : ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดบำรุงผิวชุ่มชื้น เพราะมีเทคโนโลยี Vycross เนื้อฟิลเลอร์มีโมเลกุลยึดเกาะเหนียวแน่น หลังฉีดจะบวมน้ำน้อย ทนต่อการขยับได้ดี ราคาเริ่มต้น 12,900 บาท / 1 CC
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ใช้กี่ CC ?

สำหรับคนที่มีหลุมสิวไม่เยอะ การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC ก็เพียงพอในการเห็นผล ส่วนคนที่มีหลุมสิวเยอะหรือหลุมลึก อาจต้องใช้ถึง 2 CC จึงจะได้ผลดีในการฉีดฟิลเลอร์เติมหลุมสิว ทั้งนี้แพทย์จะเป็นคนประเมินว่าควรใช้ปริมาณเท่าไหร่จึงจะเหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนครับ
ต้องฉีดฟิลเลอร์เติมหลุมสิวกี่ครั้ง จึงจะเห็นผล ?
หลังฉีด Filler หลุมสิวเพียงครั้งเดียวก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที โดยฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น เรียบเนียนเสมอผิวรอบ ๆ หลังฉีดอาจมีรอยบวมแดงหรือช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะหายเองใน 2-3 วัน
จากนั้นผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ แล้วฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปเอง หากต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง สามารถกลับมาฉีดเติมเต็มหลุมสิวได้ใหม่ ตามคำแนะนำของแพทย์
สรุปเรื่องฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว กู้คืนผิวหน้าเนียน
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นตัวช่วยที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาหลุมสิวแบบทันใจ เพราะสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ ผิวดูเรียบเนียนขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้นและไม่มีแผล ทั้งยังช่วยเติมเต็มรอยหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือการเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้รับการรับรอง และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์โดยตรง เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์จะออกมาปลอดภัยและได้มาตรฐานตามที่คาดหวัง