
ฟิลเลอร์ปลอม
หลายคนคงเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการฉีด Filler ปลอมจนเกิดผลข้างเคียงรุนแรงมาบ้างแล้ว แต่จะดูยังไงให้รู้ว่าฟิลเลอร์ที่กำลังจะฉีดนั้นเป็นของแท้หรือของปลอมกันแน่ ? ในบทความนี้ Goodlybeauty จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ปลอม พร้อมวิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ในแต่ละยี่ห้อ และแนวทางเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันการเจอฟิลเลอร์ปลอมก่อนฉีดกันค่ะ
คลิกอ่านหัวข้อ ฟิลเลอร์ปลอม
ฟิลเลอร์ปลอม คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ปลอม คือ สารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา (อย.) โดยฟิลเลอร์ปลอมมักเป็นสารในกลุ่มซิลิโคนเหลว พาราฟิน ที่ไม่สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะทิ้งสารตกค้างไว้ใต้ชั้นผิวหนัง จนเกิดการอักเสบ อาการแพ้ และเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

ในประเทศไทยหากพูดถึงฟิลเลอร์ในทางการแพทย์ หมายถึง สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย. ) ว่าสามารถใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ช่วยให้ผิวเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ และใช้ปรับรูปหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฉีดฟิลเลอร์ปลอม อันตรายอย่างไร ?
ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม ? ถ้าหากเป็นฟิลเลอร์ปลอมอันตรายมากค่ะ เพราะเนื้อฟิลเลอร์ไม่สามารถสลายได้เอง และไม่สามารถรู้ได้ว่าในฟิลเลอร์ปลอมนั้นมีส่วนผสมอะไรบ้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อร่างกายได้

อันตรายที่อาจเกิดขึ้นหากฉีดฟิลเลอร์ปลอม ได้แก่
- การอักเสบและติดเชื้อ : ฟิลเลอร์ปลอมอาจไม่ได้ผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดเชื้อ ทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อรุนแรงบริเวณที่ฉีด
- จับตัวเป็นก้อนเกิดพังผืด : เกิดก้อนแข็งใต้ผิวหนังกลายเป็นพังผืดเกาะบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- เป็นผื่นคัน แพ้ฟิลเลอร์ : ส่วนผสมบางอย่างในฟิลเลอร์ปลอม อาจกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการแพ้อย่างรุนแรง เป็นผื่นคัน และผิวบวมแดงได้
- ฟิลเลอร์ไหลย้อยผิดรูป : เมื่อเวลาผ่านไป 3-5 ปี ฟิลเลอร์จะไหลย้อยลงมาเป็นก้อนแข็ง ทำให้ใบหน้าผิดรูป
- การอุดตันหลอดเลือด : หากพลาดฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าสู่เส้นเลือด อาจทำให้เกิดการอุดตัน ส่งผลให้เนื้อเยื่อตาย หรือร้ายแรงถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น
- เหลือสารตกค้างในร่างกาย : ส่วนผสมบางอย่างในฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ต้องใช้การผ่าตัดหรือกระบวนการที่ซับซ้อนในการนำฟิลเลอร์ปลอมออก
อันตรายจากฟิลเลอร์ปลอมมักปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งตามสื่อโซเชียล ซึ่งปัญหานี้ไม่เพียงแค่เกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่ยังรวมถึงการฉีดโดยหมอเถื่อนหรือหมอกระเป๋า ที่ไม่มีความรู้ทางการแพทย์ อาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ตามมาได้ค่ะ
ลักษณะอาการหลังฉีดฟิลเลอร์ปลอม
หากพลาดฉีดฟิลเลอร์ปลอม ผลลัพธ์หลังฉีดอาจสวยงามแค่ในช่วงแรก แต่เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมนั้นเป็นสารประเภทซิลิโคนเหลว หรือพาราฟินที่เป็นอันตราย ไม่สามารถย่อยสลายเองได้
เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดปัญหาต่าง ๆ ได้ในระยะยาว โดยส่วนใหญ่แล้วอาการหลังฉีดฟิลเลอร์ปลอม มักเกิดขึ้นหลังฉีดไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ ดังนี้
- บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ดูบวมผิดปกติ เกิดก้อนนูน ผิวดูไม่เรียบเนียน
- รู้สึกเจ็บปวด แสบร้อน และมีแนวโน้มความเจ็บที่รุนแรงขึ้น
- ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมเปลี่ยนสี ผิวดูช้ำและแดงผิดปกติ
- มีการอักเสบติดเชื้อเป็นหนองบริเวณที่ฉีด
- ผิวหนังเริ่มตาย มีสีคล้ำดำ อาจเกิดจากฟิลเลอร์ปลอมไปอุดตันเส้นเลือด

ฟิลเลอร์ปลอม ดูยังไง ?
หากสงสัยว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ตามวิธีดังต่อไปนี้
ราคาถูกเกินจริง
หากสงสัยว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นของปลอมหรือแท้ ให้สังเกตที่ราคาก่อนเป็นอันดับแรกเลยค่ะ ฟิลเลอร์ปลอมมักมีราคาถูกผิดปกติเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์แท้ หากพบราคาต่ำเกินไป อาจเป็นฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
ซึ่งมักพบในคลินิกเถื่อนหรือฉีดกับหมอกระเป๋า แม้ผลลัพธ์ช่วงแรกอาจดูดี แต่ในระยะยาวเสี่ยงต่อปัญหาร้ายแรง และอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการแก้ไขค่ะ
สารที่ใช้ไม่ผ่านมาตรฐาน
ฟิลเลอร์ปลอมมักประกอบด้วยสารอันตราย เช่น ซิลิโคนเหลวหรือพาราฟิน ซึ่งไม่ใช่ไฮยาลูรอนที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยสารเหล่านี้ไม่สามารถย่อยสลายได้ และจะสะสมอยู่ในชั้นผิว อาจก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาว เช่น เกิดการอักเสบติดเชื้อ ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนจนเกิดปัญหาใบหน้าผิดรูป
นำเข้าแบบผิดกฎหมาย ไม่ผ่าน อย.
ฟิลเลอร์ปลอมมักเป็นสินค้าที่นำเข้าโดยผิดกฎหมาย หรือที่เรียกว่าฟิลเลอร์หิ้ว ไม่มีเลขทะเบียน ไม่มีการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ทำให้ฟิลเลอร์เหล่านี้อาจมีการเก็บรักษาที่ไม่ได้มาตรฐานทำให้คุณภาพของตัวยาเสื่อมลง ผู้ใช้จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดผลข้างเคียง
บรรจุภัณฑ์มีความผิดปกติ
ฟิลเลอร์ปลอมสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากบรรจุภัณฑ์ หากพบว่ามีร่องรอยการแกะ ตัวอักษรบนกล่องไม่ชัดเจน สีสันผิดปกติ หรือไม่สามารถสแกน QR Code หรือ Serial Number เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาได้ ควรระวัง เพราะอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานค่ะ
ไม่สามารถตรวจสอบเลข Lot ได้
ฟิลเลอร์แท้ทุกกล่องจะมี เลข Lot ระบุอย่างชัดเจนบนบรรจุภัณฑ์และหลอดฟิลเลอร์ พร้อมทั้งมีเอกสารและข้อมูลภาษาไทยจากบริษัทนำเข้า หากฟิลเลอร์ไม่มีเลข Lot. ไม่มีฉลากภาษาไทย หรือพบร่องรอยการแกะกล่องหรือสติกเกอร์มาก่อน อาจเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้ค่ะ
วิธีดูฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อว่าเป็นของแท้ไม่ปลอม
การเช็คฟิลเลอร์แท้เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันมีฟิลเลอร์ปลอมแพร่หลายในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลเสียได้ในระยะยาว โดยวิธีตรวจสอบฟิลเลอร์แท้จาก 3 ยี่ห้อที่ได้รับความนิยม มีดังนี้
ฟิลเลอร์ ยี่ห้อ Juvederm

ตัวอย่างวิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm รุ่น Voluma
- บรรจุภัณฑ์ของแท้จะมีการซีลปิดผนึกแน่นหนา ไม่มีร่องรอยการแกะกล่อง
- ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
- มีหมายเลขล็อต (Lot Number) ระบุชัดเจนบนกล่อง และเลข Lot. ต้องตรงกัน 4 จุด
- กล่อง
- ซอง
- สติกเกอร์
- หลอดฟิลเลอร์
- สามารถตรวจสอบหมายเลข Lot. และคลินิกได้ที่บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-640-4999 ต่อ 1
- หากฟิลเลอร์ไม่มีฉลากภาษาไทยหรือไม่มีเอกสารรับรองจากบริษัทแอลเลอร์แกนผู้นำเข้า ให้สันนิษฐานว่าอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม
ฟิลเลอร์ ยี่ห้อ Restylane

ตัวอย่างวิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane รุ่น Perlane Lyft
- บรรจุภัณฑ์ต้องมีรอยปรุชัดเจนสำหรับการเปิดกล่อง
- มีโลโก้ Restylane และชื่อรุ่นของฟิลเลอร์ระบุไว้อย่างชัดเจน
- บนกล่องต้องมีสติกเกอร์โมโนแกรม เมื่อลอกออกจะเห็นข้อความ “VOID”
- ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
- หมายเลข Lot. ต้องตรงกัน 2 จุด คือ ข้างกล่องและหลอดฟิลเลอร์
- ใช้แอปพลิเคชัน eZtracker เพื่อสแกน QR Code ตรวจสอบความถูกต้องว่าเป็นฟิลเลอร์แท้
- สามารถติดต่อบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อตรวจสอบเลข Lot. หรือรายชื่อคลินิกที่ได้มาตรฐาน โทร. 02-023-1800 ต่อ 402
ฟิลเลอร์ ยี่ห้อ Belotero

ตัวอย่างวิธีดูฟิลเลอร์แท้ Belotero รุ่น Intense
- ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
- สามารถสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบความถูกต้องว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ไม่ใช่ฟิลเลอร์ปลอม
- หมายเลข Lot. ต้องตรงกัน 3 จุด คือ กล่อง สติกเกอร์ และหลอดฟิลเลอร์
- สามารถตรวจสอบหมายเลข Lot. และคลินิกได้ที่บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ โทร. 02-026-1111
แนวทางเลือกคลินิกป้องกันฟิลเลอร์ปลอม
สำหรับผู้ที่สงสัยว่า ฉีดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี ? เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอฟิลเลอร์ปลอมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย สามารถเลือกพิจารณาคลินิกตามแนวทางดังต่อไปนี้
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข พร้อมแสดงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักให้มองเห็นได้ชัดเจน
- แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ต้องเป็นแพทย์จริง สามารถตรวจสอบชื่อ-นามสกุลได้จากเว็บไซต์ของแพทยสภา มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ และปรับรูปหน้า
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. สามารถตรวจสอบเลข Lot. ได้เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ใช่ฟิลเลอร์ปลอม และเปิดกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าก่อนฉีด
- คลินิกมีความสะอาด อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ต้องปลอดเชื้อ
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงในคลินิกนั้น ๆ เพื่อประเมินคุณภาพการให้บริการและความน่าเชื่อถือ ต้องมาจากแหล่งที่เป็นกลาง เชื่อถือได้ และต้องเป็นรีวิวที่อัปเดตเป็นปัจจุบัน
- ราคาสมเหตุสมผล หากพบราคาถูกผิดปกติ ควรตั้งข้อสังเกตเพราะอาจเสี่ยงเจอฟิลเลอร์ปลอมหรือได้รับบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน
ฟิลเลอร์ราคาถูก ใช่ Filler ปลอมหรือไม่ ?
ฟิลเลอร์ราคาถูกไม่ได้หมายความว่าจะเป็น Filler ปลอมเสมอไป เนื่องจากฟิลเลอร์มีหลากหลายยี่ห้อที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน โดยฟิลเลอร์เกาหลีมักมีราคาถูกกว่าฟิลเลอร์จากฝั่งยุโรป แต่ระยะเวลาคงอยู่จะสั้นกว่าค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากเจอฟิลเลอร์ราคาถูกกว่าปกติมากจนผิดสังเกต ควรระวังว่าอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์หิ้วที่ลักลอบนำเข้าทำให้มีราคาที่ถูกลง และอาจเก็บรักษาไม่เหมาะสมจนทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมคุณภาพ รวมถึงควรระมัดระวังโปรโมชั่นที่ลดราคาลงเกินจริง หรือคลินิกที่ไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่ใช้
ดังนั้น แม้ว่าฟิลเลอร์ราคาถูกบางยี่ห้อจะเป็นฟิลเลอร์แท้ แต่ทั้งนี้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. และฉีดโดยแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้นค่ะ
สรุปเรื่องฟิลเลอร์ปลอม อันตรายที่ต้องระวัง
การฉีดฟิลเลอร์ปลอม อาจนำไปสู่ปัญหาร้ายแรง เช่น การอักเสบติดเชื้อ ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน ผิวหนังผิดรูป จนนำไปสู่การเสียโฉมได้ การเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ประเภทไฮยาลูรอนที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. และฉีดโดยแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐานจึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
ทั้งนี้ก่อนการฉีดทุกครั้ง ควรตรวจสอบฟิลเลอร์ให้ละเอียดตามวิธีที่บอกไปในบทความ เพื่อยืนยันว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ และอย่าหลงเชื่อราคาถูกจนเกินไป การลงทุนในยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน นอกจากความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเจอฟิลเลอร์ปลอมด้วยค่ะ