ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องให้ความใส่ใจในการดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ซึ่งข้อควรปฏิบัติและวิธีการดูแลที่ถูกต้องจะส่งผลโดยตรงต่อความสวยงาม และความปลอดภัยหลังการทำหัตถการ โดยหลังจากการฉีดทุกครั้ง คนไข้มักจะมีคำถามมากมายเกี่ยวกับข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler และวิธีการดูแลตัวเองที่เหมาะสม
ในบทความนี้ Goodlybeauty จะแนะนำวิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องในแต่ละช่วงเวลา ตั้งแต่วันแรกที่ฉีดจนถึง 1 เดือน รวมถึงการดูแลเฉพาะจุดต่าง ๆ และข้อควรระวังที่สำคัญ เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหลังฉีดฟิลเลอร์
คลิกอ่านหัวข้อ หลังฉีดฟิลเลอร์
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ทันที ภายใน 2-14 วัน และ 1 เดือน

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมตั้งแต่วันแรกจนถึงระยะเวลาหนึ่งเดือน เพราะฟิลเลอร์ต้องใช้เวลาเข้าที่และปรับตัวให้กลมกลืนกับผิว การปฏิบัติตามข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ป้องกันการเกิดผลข้างเคียง และรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขี้น
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ทันที
หลังเติมฟิลเลอร์เสร็จทันที อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ในช่วงนี้จึงสำคัญมาก เพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยมีวิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ ดังนี้
- หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จทันที อาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคัน ควรหลีกเลี่ยงการแตะ การเกา และการนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 1 ชั่วโมง สามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้ และหากต้องการแต่งหน้า ควรหลีกเลี่ยงบริเวณรอยเข็ม
- กินยาฆ่าเชื้อทันทีหลังทำหากยังไม่ได้กินก่อนฉีด พร้อมทานยาลดบวมและยาแก้ปวด ตามคำแนะนำของแพทย์

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 3 ชั่วโมง – 2 วัน
หลังฉีด Fillerในช่วง 3 ชั่วโมงถึง 2 วันแรก เป็นช่วงที่รอยเข็มและอาการบวมอาจเห็นได้ชัด ผิวบริเวณที่ฉีดจึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และช่วยให้ฟิลเลอร์เริ่มปรับตัวเข้ากับผิวอย่าง เหมาะสม จึงมีข้อควรปฏิบัติหลังฉีด Filler ดังนี้
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 3 ชั่วโมง รอยเข็มสามารถโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที ควรล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ หากต้องการประคบเย็น ควรปรึกษาแพทย์ก่อน ห้ามประคบเองผิดวิธี เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนหรือไม่เกาะผิวได้ดี
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 6 ชั่วโมง ยาชาจะเริ่มหมดฤทธิ์ หากยังบวมมาก สามารถประคบเย็นเบา ๆ ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกดแรง
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 1 วัน อาการบวมเข็มอาจเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่จะค่อย ๆ ยุบใน 7-14 วัน ช่วงนี้สามารถล้างหน้า ทาครีม หรือโดนน้ำได้ตามปกติ
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 2 วัน ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า ตากแดด ออกกำลังกายหนัก หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปหรือยุบเร็วขึ้น
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน – 14 วัน
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ ช่วง 3 วันถึง 14 วันแรก เป็นช่วงเวลาที่ฟิลเลอร์กำลังปรับตัวเข้ากับผิว อาการบวมแดงหรือเขียวช้ำจะค่อย ๆ ดีขึ้น และฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ประมาณ 90% จึงควรทำตามข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ดังนี้
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน อาการปวด บวมแดง หรือช้ำจะเริ่มลดลง หากอาการแย่ลงหรือไม่ดีขึ้น ควรติดต่อคลินิกเพื่อรับยาเพิ่ม ช่วงนี้ขยับใบหน้าได้เกือบปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการขยับมากเกินไป เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ ถึงแม้ฟิลเลอร์จะเข้าที่ประมาณ 90% แล้ว แต่ยังไม่ควรกดหรือนวดแรง ๆ
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 7-10 วัน รอยเขียวช้ำที่อาจยังเหลืออยู่จะค่อย ๆ จางลงใน 14 วัน ห้ามประคบร้อนในช่วงนี้ สำหรับบางคนอาจคลำเจอฟิลเลอร์เป็นก้อนได้ ซึ่งเป็นอาการบวมเข็มที่จะนิ่มลงเองใน 2-3 สัปดาห์
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 14 วัน อาการบวมจะหายไปเกือบทั้งหมด ฟิลเลอร์จะนิ่มและกลืนไปกับผิว ยกเว้นในรุ่นที่ฉีดลึกเพื่อยกพยุงหน้า เช่น Restylane Perlane Lyft หรือ Juvederm Voluma ซึ่งสามารถคลำเจอในผิวชั้นลึกได้ แต่ไม่มีผลต่อการมองเห็นจากภายนอกค่ะ
ทั้งนี้ ในช่วงนี้ สามารถเริ่มกลับมาออกกำลังกาย หรือรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ยังควรหลีกเลี่ยงความร้อนค่ะ
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 1 เดือน
หลังฉีดฟิลเลอร์ครบ 1 เดือน ฟิลเลอร์จะเข้าที่และกลมกลืนไปกับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ การดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ จะช่วยเสริมให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ดูสวยขึ้นและอยู่ได้นานยิ่งขึ้น โดยมีข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ดังนี้
- งดการทำทรีตเมนต์หรือเลเซอร์ร้อนที่ลงลึกถึงผิวชั้นลึก เช่น RF หรือ Thermage อย่างน้อย 1 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์

- ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ วันละ 1.5-2 ลิตร เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ ตอนนอนกลางคืนต้องทำอย่างไร ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ การนอนใน 2-3 คืนแรก มีผลต่อการเข้าที่ของฟิลเลอร์อย่างมาก ควรนอนในท่าที่เหมาะสม เพื่อลดโอกาสไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือเกิดรอยกดทับบริเวณที่ฉีด ดังนี้
- นอนหงาย โดยหนุนหมอน 2 ใบ ให้ระดับศีรษะยกสูงกว่าหน้าอก
- ใช้หมอนข้างกันไว้ทั้งสองข้าง หรือหมอนรองคอ เพื่อป้องกันการนอนตะแคง
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำและการใช้หมอนที่แข็งเกินไป

ข้อควรปฏิบัติ และ ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุด
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ ในแต่ละจุดของใบหน้า การดูแลอาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามบริเวณที่ฉีด เพราะฟิลเลอร์ในจุดต่าง ๆ มีข้อควรปฏิบัติ และ ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ไม่เหมือนกัน การปฏิบัติตามคำแนะนำเฉพาะจุดจะช่วยให้ผลลัพธ์สวยงามและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

- ข้อควรปฏิบัติ : หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอจะติดพลาสเตอร์บริเวณรอยเข็ม และสามารถแกะออกได้หลัง 1 ชั่วโมง อาจมีอาการบวม แดง หรือคันเล็กน้อยเกิดขึ้นได้ แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นเองใน 2-3 วัน นอกจากนี้ ควรนอนหัวสูง หนุนหมอนอย่างน้อย 2 ใบ และหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงใน 2-3 คืนแรก หากรู้สึกปวดสามารถทานยาแก้ปวดตามแพทย์สั่ง และแต่งหน้าได้ตามปกติหลังทำ
- ข้อควรระวัง : ห้ามขยี้ตา เกา หรือกดนวดบริเวณใต้ตา เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ และระวังการสวมแว่นตาที่กดทับบริเวณที่ฉีด รวมถึงควรงดทาครีมบริเวณที่มีรอยเข็ม 1 คืน และงดทำทรีทเมนต์ ซาวน่า 14 วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์คาง

- ข้อควรปฏิบัติ : หลังฉีดฟิลเลอร์คาง อาจมีอาการบวมที่จะค่อย ๆ หายไปได้เองใน 4-5 วัน และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำ ฟู และเข้าที่ได้ดี
- ข้อควรระวัง : ห้ามแกะ เกา นวด กด หรือปั้นทรงคางเอง โดยเฉพาะช่วง 2 สัปดาห์แรก เพราะอาจทำให้คางเสียทรง รวมถึงควรหลีกเลี่ยงอากาศร้อน การเท้าคาง การใส่หมวกกันน็อคที่รัดแน่น ๆ และไม่ควรนอนคว่ำ หรือทำกิจกรรมที่กดทับบริเวณคาง
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

- ข้อควรปฏิบัติ : หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู และเลือกกินอาหารที่อุณหภูมิปกติ งดทานหรือดื่มของร้อน ๆ ใน 12 ชั่วโมงแรกควรงดจูบ งดใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติก และงดสูบบุหรี่
- ข้อควรระวัง : หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณปาก เช่น การจับ บีบ นวด หรือกดริมฝีปาก ห้ามลอกหรือดึงหนังริมฝีปาก หลีกเลี่ยงการทานอาหารรสจัดหรือเผ็ด งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย รวมถึงงดทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายหนัก ๆ ที่จะทำให้ปากเสียรูปทรง
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

- ข้อควรปฏิบัติ : หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หากมีอาการปวดหรือบวมบริเวณร่องแก้ม สามารถทานยาแก้ปวดตามคำแนะนำของแพทย์ได้ ควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ วันละ 1.5-2 ลิตร และควรอยู่แต่ในที่อากาศเย็น
- ข้อควรระวัง : ห้ามบีบ กด นวด หรือแกะเกาบริเวณร่องแก้ม หลีกเลี่ยงการขยับใบหน้ามากเกินไปในช่วง 3 วันแรก งดทำกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 2 วันเช่น การออกกำลังกายหนัก ๆ หรือตากแดด และงดนอนตะแคง เพราะจะทำให้แก้มบี้ไปกับหมอนจนเกิดการกดทับร่องแก้ม
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

- ข้อควรปฏิบัติ : หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อาจมีอาการปวดศีรษะเล็กน้อยได้ในบางเคส แต่อาการจะค่อย ๆ หายไปและดีขึ้นได้เอง ควรพักอยู่ในที่เย็น ๆ
- ข้อควรระวัง : ห้ามกด นวด จับ หรือมีการรัดบริเวณหน้าผากหลังฉีด ควรงดนอนราบในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรก และหลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน รวมถึงงดการถูหน้าแรง ๆ หรือบีบสิวบริเวณหน้าผาก รวมถึงไม่ควรนอนคว่ำ
หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

- ข้อควรปฏิบัติ : หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ใน 1-2 วันแรก อาจรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย เพราะขมับเป็นจุดรวมเส้นประสาท จึงไวต่อความรู้สึกได้ง่าย ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และสามารถทานยาแก้ปวดได้เพื่อบรรเทาอาการ
- ข้อควรระวัง : ห้ามกด นวด หรือใส่แว่น ใส่หมวกที่รัดแน่น ๆ บริเวณขมับ และหลีกเลี่ยงการนอนตะแคง เพราะอาจกดทับบริเวณขมับให้รู้สึกเจ็บหรือปวดหัวมากขึ้นได้
วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด Filler เพิ่มเติม

เมื่อทราบข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละจุดที่ต้องระวังแล้ว การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยลดอาการบวมและผลข้างเคียงต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยให้ผลลัพธ์เข้าที่ได้เร็วขึ้น ในหัวข้อนี้จะอธิบายวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เพิ่มเติม ดังนี้ค่ะ
- ควรอาบน้ำหรือล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัดหรือแช่น้ำร้อน เพราะอาจทำให้อาการบวมเพิ่มขึ้น
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA, BHA หรือสารผลัดเซลล์ผิว เพราะอาจทำให้เกิดอาการคันหรือระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงอาหารทะเลบางชนิดที่อาจกระตุ้นการแพ้หรือการอักเสบ โดยเฉพาะในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการฉีด
- รับประทานผัก ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว และมีวิตามินสูง เช่น ส้ม ส้มเขียวหวาน เกรปฟรุต เพื่อช่วยฟื้นฟูผิว เสริมสร้างคอลลาเจน
- ทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ไก่ ปลา ไข่ขาว และธัญพืช เพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของผิว
- สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวมแดง หรือช้ำที่ไม่ดีขึ้น หรือหากมีอาการแย่ลงควรรีบติดต่อแพทย์ทันทีเพื่อรับคำปรึกษา
หลังฉีดฟิลเลอร์ควรเลี่ยงอาหารแบบไหน ?

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงการเลือกอาหารที่เหมาะสม มีผลสำคัญต่อการฟื้นตัวและผลลัพธ์ที่ดี ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มบางชนิดในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด ดังนี้
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มหมัก
- มื้ออาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู เพราะความร้อนอาจทำให้เกิดการบวมเพิ่ม
- อาหารรสจัดมาก ๆ เช่น เผ็ดจัดหรือแสบร้อนจนหน้าแดง
- อาหารรสเค็มจัด เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง เพราะเค็มทำให้เส้นเลือดขยายตัว
- อาหารหวานจัด เช่น ชานม น้ำหวาน น้ำอัดลม เพราะกระตุ้นการอักเสบได้
- อาหารดิบ ที่ไม่ผ่านการปรุงสุก หรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น อาหารทะเล แซลมอน ซาซิมิ หอยสด ไข่ลวก เนื้อที่ปรุงไม่สุก หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ
คำถามที่พบบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์ หลายคนมักมีคำถามเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง เช่น อาการบวม การออกกำลังกาย และพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง มาดูคำตอบที่จะช่วยให้การดูแลตัวเองหลังฉีดถูกต้องมากยิ่งขึ้นค่ะ
หลังฉีดฟิลเลอร์ มีอาการบวมกี่วัน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ จะมีอาการบวมประมาณ 3-4 วัน และค่อย ๆ ดีขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติ จากนั้นจึงจะเห็นผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ที่ชัดเจนเข้าที่ ในประมาณ 2 สัปดาห์ หากมีอาการปวด สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการ ไม่ต้องเป็นกังวลค่ะ
หลังฉีดฟิลเลอร์ ออกกำลังกายได้ไหม ?
ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดการออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายจะทำให้เกิดความร้อนในร่างกาย ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัว ใบหน้าแดง และอาจรบกวนการทำงานของฟิลเลอร์ในการเข้าที่
จากนั้นในช่วง 3-14 วัน สามารถกลับมาออกกำลังกายได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าร้อนหรือแดงมากเกินไป เช่น การวิ่ง หรือการเล่นเวทเทรนนิ่งหนัก ๆ
หลังฉีดฟิลเลอร์นอนตะแคงได้ไหม ?
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้าว่าหลังจากฉีดฟิลเลอร์ ตอนกลางคืนควรงดนอนตะแคง ในช่วง 2-3 วันแรก เพราะการกดทับบริเวณที่ฉีดอาจทำให้รู้สึกเจ็บ และอาจส่งผลต่อการเข้าที่ของฟิลเลอร์
แนะนำให้นอนหงายโดยหนุนหมอน 2 ใบเพื่อให้ศีรษะสูงกว่าหน้าอก และใช้หมอนข้างวางกั้นทั้งซ้ายและขวา หรือหมอนรองคอเพื่อป้องกันการพลิกตัวนอนตะแคงโดยไม่ตั้งใจ
หลังฉีดฟิลเลอร์ กินเบียร์ ดื่มแอลกอฮอล์ได้ไหม ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทั้งเบียร์ เหล้า ไวน์ และน้ำหมัก เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือด ส่งผลให้ใบหน้าแดง และอาจทำให้เกิดอาการบวมมากขึ้น ซึ่งอาจรบกวนการเข้าที่ของฟิลเลอร์ในช่วงแรก
สรุปเรื่องหลังฉีดฟิลเลอร์ ดูแลอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ดี
หลังฉีดฟิลเลอร์ การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ต้องระวังเรื่องการกดทับ หลีกเลี่ยงความร้อน และควบคุมอาหารการกิน ที่สำคัญคือควรดื่มน้ำให้เพียงพอและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ