ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม
ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ? คำถามยอดฮิตที่มาพร้อมกับกระแสการฉีด Filler ที่กำลังมาแรง เพราะใคร ๆ ก็อยากสวยแบบธรรมชาติ แต่ก็กลัวข่าวร้ายที่เคยได้ยินมา วันนี้ Goodlybeauty จะพามาไขข้อสงสัยว่า ทำไมการฉีดฟิลเลอร์ถึงมีทั้งด้านที่ปลอดภัยและอันตราย ? การฉีดแต่ละจุดมีความเสี่ยงแค่ไหน ? พร้อมบอกวิธีเลือกคลินิกและแพทย์ในการฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย
คลิกอ่านหัวข้อ ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ปลอดภัยหรือไม่ ?
การฉีดฟิลเลอร์ โดยทั่วไปถือว่ามีความปลอดภัยสูง หากดำเนินการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) เช่น ฟิลเลอร์ประเภท ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid: HA) ซึ่งสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติในร่างกาย
เหตุผลที่การฉีดฟิลเลอร์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหัตถการที่ปลอดภัย
- เป็นสารที่คล้ายคลึงกับธรรมชาติ : HA เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกาย ช่วยเก็บกักน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว
- สามารถแก้ไขได้ง่าย : หากเกิดปัญหาหรือไม่พอใจกับผลลัพธ์ สามารถฉีดเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) เพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ทันที
- สลายได้เองตามธรรมชาติ : โดยทั่วไปผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะสลายไปได้เอง 100% ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
ทำไมการฉีด Filler บางคนบอกว่าอันตราย ?
หลายคนกลัวการฉีดฟิลเลอร์เพราะเคยได้ยินข่าวอย่างฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าพัง ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน แต่ความจริงแล้ว ฟิลเลอร์อันตรายไหมนั้น ขึ้นอยู่กับว่าใช้ฟิลเลอร์แบบไหน และให้ใครเป็นคนฉีด มาทำความเข้าใจกันค่ะ ว่าสาเหตุที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วอันตรายนั้น มีอะไรบ้าง
1. การใช้ฟิลเลอร์ปลอม
ฟิลเลอร์มีหลายประเภท แบบที่ปลอดภัยคือ HA (Hyaluronic Acid) เพราะร่างกายสลายได้หมด ถ้าเกิดปัญหาก็แก้ไขได้ แต่ที่อันตรายคือพวกฟิลเลอร์ปลอม ซิลิโคนเหลว หรือสารแปลกปลอมที่ร่างกายสลายไม่ได้ หากพลาดฉีดเข้าไปเสี่ยงอักเสบติดเชื้อ ฟิลเลอร์ไหลย้อยผิดทิศทาง
2. การฉีดฟิลเลอร์โดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์
การฉีดฟิลเลอร์โดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ หรือที่เราเรียกกันว่า หมอหิ้ว หมอกระเป๋า เป็นผู้ที่ไม่มีความชำนาญเรื่องกายวิภาค และขาดเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง ทำให้หลังฉีดฟิลเลอร์มีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ หรือรุนแรงที่สุดคือหากพลาดฉีดเข้าเส้นเลือดอาจทำให้เกิดเนื้อตาย หรือตาบอดได้ตามที่เห็นกันในข่าว
3. การฉีดฟิลเลอร์ในสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน
การฉีดในสถานที่ไม่สะอาด เช่น บ้าน คอนโด หรือร้านเสริมสวยทั่วไป เสี่ยงติดเชื้อมาก เพราะไม่มีอุปกรณ์ฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐาน แต่ถ้าฉีดถูกวิธี คือ ใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. ฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญ
และ ฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แบบนี้จะปลอดภัย ถ้าเกิดปัญหาก็แก้ไขได้ทันที เพราะฟิลเลอร์แท้มีตัวยาฉีดสลายออกได้ทันที
ดังนั้น ฟิลเลอร์ไม่อันตรายถ้าทำถูกที่ถูกคน ข่าวอันตรายที่เห็นส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฉีดกับคนที่ไม่ใช่แพทย์ เพื่อความปลอดภัย อย่าหลงเชื่อโฆษณาฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก หรือไปฉีดตามบ้าน เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา การแก้ไขจะยากและเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการฉีดกับแพทย์ตั้งแต่แรกหลายเท่าเลยค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุดเสี่ยงอันตรายแค่ไหน ?
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ หลายคนอาจกังวลว่า ” ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ? ” โดยเฉพาะเมื่อฉีดในบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า ซึ่งแต่ละจุดมีความซับซ้อนของเส้นเลือดและเส้นประสาทแตกต่างกัน หากฉีดฟิลเลอร์โดยผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ ความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายก็จะเพิ่มขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ?
บริเวณใต้ตาเป็นจุดที่หลายคนกังวลเพราะเป็นบริเวณที่บอบบางและใกล้ดวงตา การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีความเสี่ยงหากฉีดผิดตำแหน่งหรือโดนเส้นเลือด แต่ถ้าฉีดกับแพทย์ผู้มากประสบการณ์และใช้ฟิลเลอร์แท้ที่สลายได้ 100% ก็จะปลอดภัย แถมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวดูดีขึ้นด้วยค่ะ
ฉีดร่องแก้มอันตรายไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยลดร่องลึกให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่ก็มีคำถามว่า ฟิลเลอร์อันตรายไหมในจุดนี้ ? ร่องแก้มมีเส้นเลือดที่เชื่อมต่อกับดวงตา หากฉีดผิดตำแหน่งอาจทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือด เนื้อเยื่อขาดเลือด หรือเกิดอาการบวมแดงได้ แต่ถ้าฉีดกับแพทย์เก่ง ๆ มีประสบการณ์สูงที่รู้ตำแหน่งเส้นเลือดดี ก็จะปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์คางอันตรายไหม ?
บริเวณคางเป็นอีกจุดที่ได้รับความนิยมในการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสมส่วน อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์คางหากฉีดไม่ถูกตำแหน่ง โดยเฉพาะการฉีดตื้นเกินไปจะทำให้กล้ามเนื้อใต้คาง (Mentalis) ดึงฟิลเลอร์มารวมกันเป็นก้อน เวลาพูดหรือยิ้มจะเห็นคางย้อยได้ แต่ถ้าฉีดในชั้นที่ถูกต้องคือใต้เยื่อหุ้มกระดูก โดยแพทย์มากประสบการณ์ ก็จะปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม ?
คำถามนี้สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้น และมีเสน่ห์มากขึ้น แต่ต้องระวังเนื่องจากบริเวณปากเป็นจุดที่ไวต่อความรู้สึก และมีเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก หากฉีดผิดตำแหน่งหรือฉีดในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ริมฝีปากบวมผิดรูป เกิดก้อน เลือดออก เสี่ยงต่อการอุดตันของหลอดเลือดได้
Filler ขมับอันตรายไหม ?
บริเวณขมับเป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยม ที่หลายคนเลือกฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ปัญหาขมับตอบ แต่ Filler ขมับอันตรายไหม ? คำตอบคือ บริเวณขมับมีเส้นเลือดที่เชื่อมต่อกับดวงตา และต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ค่อนข้างมาก
การฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญหรือหมอเถื่อนอาจเป็นอันตรายได้ แต่หากเลือกฉีดกับแพทย์ที่ชำนาญ ใช้เทคนิคถูกต้องและฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ก็มีความปลอดภัย
ฉีดหน้าผากอันตรายไหม ?
หน้าผากเป็นจุดที่ช่วยเสริมโหงวเฮ้งและเติมเต็มใบหน้าให้สมส่วน แต่ต้องระวังเพราะมีเส้นเลือดที่เชื่อมต่อกับดวงตา การฉีดผิดตำแหน่งอาจทำให้ตาบอดหรือเกิดเนื้อตายได้ และถ้าใช้ฟิลเลอร์มากเกิน 5 CC ในครั้งเดียว อาจทำให้เกิดการกดทับเนื้อเยื่อ ฟิลเลอร์ไหลย้อย หรือบวมผิดรูปลงมาถึงบริเวณรอบดวงตาได้ แนะนำให้ค่อย ๆ ทยอยฉีดกับแพทย์มากประสบการณ์เพื่อความปลอดภัยค่ะ
ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุดมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ ด้วยการเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ในคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือค่ะ
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ปลอดภัย ?
การฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ? ขึ้นอยู่กับการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งมีหลายสิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนตัดสินใจฉีด เพราะหากเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือฉีดกับหมอกระเป๋า อาจเกิดอันตรายร้ายแรงได้ มาดูกันว่าควรเช็กอะไรบ้างค่ะ
- ดูใบอนุญาตคลินิกให้ชัดเจน
สิ่งแรกที่ต้องดูคือ ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล ที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีเลข 11 หลักกำกับอยู่ สามารถตรวจสอบได้ในเว็บไซต์ของกระทรวงฯ
คลินิกที่ได้มาตรฐานควรมีความสะอาด มีระบบฆ่าเชื้อที่ดี มีห้องทำหัตถการแยกเป็นสัดส่วน และมีอุปกรณ์ฉุกเฉินพร้อมใช้งาน เพราะมาตรฐานของสถานที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความปลอดภัย หากไม่มีมาตรฐานเหล่านี้ คำถามที่ว่า ฟิลเลอร์อันตรายไหม ? คงต้องตอบว่าเสี่ยง
- เช็กประวัติแพทย์ให้แน่ใจ
แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม และผ่านการอบรมหรือฝึกฝนการฉีดฟิลเลอร์จากสถาบันที่น่าเชื่อถือ เคยผ่านประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์หลายเคส ไม่มีเคสหลุด สามารถขอดูผลงานก่อน-หลังการฉีดได้
แพทย์ที่น่าเชื่อถือจะมีการเก็บข้อมูลเคสจริง และยินดีตอบคำถามของคนไข้อย่างละเอียด หากแพทย์ปฏิเสธการแสดงข้อมูลเหล่านี้ ควรพิจารณาให้ดี
- ตรวจสอบฟิลเลอร์ที่ใช้
ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ หลายคนสงสัยว่าฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ควรเลือกแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. มีฉลากภาษาไทยชัดเจน ไม่มีร่องรอยการแกะหรือปลอมแปลง
มีสิทธิ์ขอดูกล่องและซีเรียลนัมเบอร์ก่อนฉีดได้ และระวังคลินิกที่เสนอราคาถูกผิดปกติ เพราะอาจใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือหมดอายุ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้
- สังเกตวิธีบริการของคลินิก
คลินิกที่ดีต้องมีการซักประวัติอย่างละเอียด ทั้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ และการรักษาความงามที่เคยทำมา แพทย์ต้องอธิบายขั้นตอนการฉีด
ข้อควรระวัง และการดูแลตัวเองหลังฉีดให้ชัดเจน มีการถ่ายรูปก่อนทำเพื่อเปรียบเทียบผล และเก็บเป็นประวัติการรักษา หากคลินิกไหนรีบร้อน ไม่ใส่ใจรายละเอียดพวกนี้ ควรหลีกเลี่ยง
- ดูราคาให้สมเหตุสมผล
ราคาฉีดฟิลเลอร์ควรอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของตลาด ไม่ควรถูกหรือแพงจนเกินไป คลินิกต้องออกใบเสร็จที่ระบุรายละเอียดการรักษาและค่าใช้จ่ายชัดเจน ถ้ามีโปรโมชันต้องไม่กดดันให้รีบตัดสินใจ และควรให้เวลาศึกษาข้อมูลก่อนตกลงทำ
ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์จะปลอดภัยถ้าเราเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ไม่รีบร้อนตัดสินใจ และเช็กให้ครบทุกข้อที่แนะนำ อย่ากลัวที่จะถามแพทย์ในสิ่งที่สงสัย เพราะคลินิกที่ดีจะยินดีตอบทุกคำถามเพื่อสร้างความมั่นใจให้คนไข้ เรื่องความปลอดภัยสำคัญที่สุด อย่าเสียดายเวลาในการตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจค่ะ
เลือกแพทย์ฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ผลลัพธ์ฉีดออกมาดี ?
การฉีดฟิลเลอร์เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ที่ต้องอาศัยแพทย์มากประสบการณ์ เพราะนอกจากความปลอดภัยแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความสวยงามที่เข้ากับใบหน้าของแต่ละคน คำถามที่ว่า ฟิลเลอร์อันตรายไหม ? จึงขึ้นอยู่กับฝีมือและประสบการณ์ของแพทย์ด้วยเป็นสำคัญ ดังนั้น มาดูวิธีเลือกแพทย์ฉีดฟิลเลอร์กันเลยค่ะ
- ดูใบประกอบวิชาชีพแพทย์
แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม (ใบประกอบโรคศิลป์) ที่ออกโดยแพทยสภา และผ่านการอบรมหรือเรียนรู้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
อย่าเสี่ยงฉีดกับคนที่ไม่ใช่แพทย์ หรือหมอกระเป๋า เพราะอาจเกิดอันตรายร้ายแรง เช่น ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด หรือใบหน้าผิดรูป ฟิลเลอร์อันตรายไหมจึงขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแพทย์ผู้ฉีดด้วย
- ตรวจสอบประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์
แพทย์ต้องมีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์มานาน รู้ว่าแต่ละจุดควรฉีดอย่างไร ใช้ปริมาณเท่าไหร่ เพราะแต่ละบริเวณมีความซับซ้อนต่างกัน
เช่น ใต้ตาต้องระวังเป็นพิเศษ ร่องแก้มต้องฉีดให้เหมาะกับโครงหน้า คางต้องปรับให้สมดุล แพทย์ที่มีประสบการณ์จะรู้เทคนิคการฉีดที่ทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยเป็นธรรมชาติ
- ประเมินความรู้เรื่องกายวิภาค
แพทย์ต้องเข้าใจโครงสร้างใบหน้าอย่างลึกซึ้ง ทั้งเส้นเลือด เส้นประสาท และชั้นผิวหนัง เพราะการฉีดผิดตำแหน่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ เช่น เนื้อตาย ตาบอด หรือใบหน้าเบี้ยว คุณสามารถทดสอบความรู้แพทย์ได้จากการพูดคุย ถ้าแพทย์อธิบายเรื่องกายวิภาคได้ชัดเจน แสดงว่ามีความรู้จริง
- ฟังวิธีการให้คำปรึกษา
แพทย์ที่ดีจะใช้เวลาพูดคุย ซักประวัติ และทำความเข้าใจความต้องการของคุณอย่างละเอียด เช่น อยากแก้ไขจุดไหน ต้องการผลลัพธ์แบบไหน และจะอธิบายว่าฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ เพราะแต่ละคนอาจใช้เวลาไม่เท่ากัน จากนั้นจึงแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสม
- ดูผลงานจริงของแพทย์
แพทย์ที่มีฝีมือจะมีผลงานให้ดู ทั้งรูปก่อน-หลังฉีด และรีวิวจากคนไข้จริง ลองดูว่าผลงานเป็นแนวที่คุณชอบไหม สวยเป็นธรรมชาติหรือเกินจริง และมีความสม่ำเสมอในการรักษาหรือไม่ คุณอาจขอดูผลงานการฉีดบริเวณที่คุณต้องการโดยเฉพาะ
การเลือกแพทย์เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์ อย่ารีบร้อนตัดสินใจ ควรใช้เวลาศึกษาประวัติและผลงานของแพทย์ให้ดี เพราะนอกจากจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์สวยแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วยค่ะ
สรุปเรื่องฉีดฟิลเลอร์อันตรายมาก-น้อยแค่ไหน
ฟิลเลอร์อันตรายไหม ? เป็นคำถามที่พบบ่อย คำตอบคือปลอดภัยถ้าฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. เท่านั้น เพราะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
แต่จะอันตรายมากถ้าฉีดกับหมอกระเป๋า ใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดในที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดปัญหาเส้นเลือดอุดตัน ติดเชื้อ หรือฟิลเลอร์ผิดรูปได้ ดังนั้น ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่ฉีดให้ดี เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงามค่ะ