ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เป็นปัญหาที่อาจพบได้หลังการฉีดใต้ตา แม้จะดูน่ากังวล แต่สามารถแก้ไขได้ถ้ารู้วิธีที่ถูกต้องครับ
วันนี้ Goodlybeauty จะมาไขทุกข้อสงสัยว่า Filler ใต้ตาเป็นก้อน เกิดจากอะไร พร้อมแนะนำวิธีแก้ไข และวิธีป้องกันไม่ให้เกิดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนหลังฉีดที่สามารถนำไปทำตามได้จริง เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาปลอดภัย ได้ผลลัพธ์สวยดูเป็นธรรมชาติ ไม่เกิดปัญหาที่ต้องตามมาแก้ไขในภายหลังครับ
คลิกอ่านหัวข้อ ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน
ลักษณะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เป็นยังไง ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขร่องลึกและเพิ่มความสดใสให้ใบหน้า แต่บางครั้งอาจเกิดปัญหาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ซึ่งอาจทำให้หลายคนกังวลใจ
อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ครับ แต่ในเบื้องต้นมาสังเกตลักษณะอาการฉีดใต้ตาแล้วเป็นก้อนกันก่อน ว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้เข้าใจก่อนหาแนวทางการรักษาอย่างถูกต้อง โดยลักษณะของฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ ดังนี้ครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนอักเสบ
กรณีฟิลเลอร์เป็นก้อนใต้ตาที่มีการอักเสบ ถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างรวดเร็วครับ โดยสามารถสังเกตได้จากอาการปวดที่รุนแรงกว่าปกติ ดังต่อไปนี้
- มีอาการปวดรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อกดบริเวณที่เป็นก้อน
- บริเวณที่ฉีดมีอาการบวมมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ยุบลง
- ผิวหนังใต้ตาเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือคล้ำผิดปกติ
- เมื่อใช้หลังมือแตะ จะรู้สึกว่าบริเวณนั้นร้อนกว่าบริเวณอื่น
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนไม่อักเสบ
ส่วนกรณีฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนที่ไม่มีการอักเสบ เป็นอาการที่พบได้บ่อยและมักไม่รุนแรง มีลักษณะดังนี้
- ผิวบริเวณใต้ตาไม่เรียบ สังเกตเห็นเป็นก้อน
- มีอาการบวมเล็กน้อย แต่ไม่มีอาการเจ็บ
- ไม่มีอาการบวมแดงหรือร้อน
- อาการบวมมักเกิดในช่วง 3 วันแรกหลังฉีด และจะค่อย ๆ ยุบลงเอง
*ในกรณีนี้ควรรอสังเกตอาการประมาณ 1-2 สัปดาห์เพื่อดูว่าฟิลเลอร์เป็นก้อนใต้ตามีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นหรือแย่ลง เพราะปกติแล้วถ้ามีอาการลักษณะนี้มักเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี ต้องรอให้ฟิลเลอร์ค่อย ๆ เซ็ตตัวเข้ากับชั้นผิว แล้วผิวใต้ตาก็จะกลับมาเรียบเนียนตามเดิม
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ?
ปัญหา Filler ใต้ตาเป็นก้อน เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ ซึ่งส่วนใหญ่สาเหตุหลัก ๆ มักมาจากการเลือกฟิลเลอร์และเทคนิคการฉีดที่ไม่เหมาะสม ดังนี้
1. ใช้ฟิลเลอร์ปลอมในการฉีด

การฉีดฟิลเลอร์ปลอมเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. แม้จะมีราคาถูก แต่กลับสร้างปัญหาร้ายแรงคือไม่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ทำให้เกิดการจับตัวเป็นก้อนและไหลย้อยผิดรูป
บางรายอาจเกิดการแพ้ อักเสบ บวมแดง ที่สำคัญคือไม่สามารถใช้ตัวยาใด ๆ มาสลายได้ ต้องผ่าตัดขูดออกเท่านั้น ซึ่งต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น
2. ใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด

ฟิลเลอร์แต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยได้รับการออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละบริเวณ เช่น สำหรับใต้ตาชั้นตื้นซึ่งเป็นจุดที่ผิวบาง ต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียด หากใช้ฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่นสูงหรือขนาดโมเลกุลใหญ่เกินไป จะทำให้มองเห็นเป็นก้อนได้ชัดเจน
3. แพทย์ฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง

เทคนิคการฉีดมีผลอย่างมากต่อการเกิดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เพราะไม่ว่าจะเป็นการฉีดลึกหรือตื้นเกินไป หรือการใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินความจำเป็น ล้วนทำให้เกิดการจับตัวเป็นก้อนบวมที่ไม่สวยงาม แพทย์ผู้ฉีดจึงต้องคำนึงถึงความลึกที่เหมาะสมและปริมาณที่พอดี เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่อย่างสม่ำเสมอและเป็นธรรมชาติ
4. แพทย์ขาดประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ความชำนาญของแพทย์เป็นปัจจัยสำคัญ แพทย์ที่จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องมีความรู้ทั้งเรื่องสรีระใบหน้า การเลือกใช้ฟิลเลอร์ และมีประสบการณ์ในการฉีดโดยเฉพาะบริเวณใต้ตาที่ต้องการความแม่นยำสูง แพทย์ที่ขาดความชำนาญอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้
ฉีดใต้ตาแล้วเป็นก้อน อันตรายหรือไม่ ?

ใต้ตาเป็นก้อนหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ? ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 กรณีหลักดังนี้
กรณีแรก ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน จากการใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมหรือฉีดผิดเทคนิค
- กรณีนี้ไม่อันตราย ฟิลเลอร์อาจเป็นก้อนเพราะใช้ชนิดที่ไม่เหมาะกับผิวใต้ตา หรือฉีดในปริมาณมากเกินไป ผลลัพธ์อาจดูไม่สวยงามและทำให้เสียความมั่นใจ แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ครับ
กรณีที่สอง ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน จากการใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฉีดโดยผู้ไม่มีประสบการณ์
- กรณีนี้อันตรายมากครับ หากฉีดฟิลเลอร์ปลอมหรือฉีดผิดตำแหน่ง โดนเส้นเลือด อาจทำให้เกิดการอักเสบ เสียโฉม หรือถึงขั้นตาบอด และฟิลเลอร์ปลอมไม่สลายเองได้ ต้องผ่าตัดหรือขูดฟิลเลอร์ออกเท่านั้น
วิธีแก้ไขเมื่อฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน
เมื่อฟิลเลอร์ใต้ตาเกิดการจับตัวเป็นก้อน การแก้ไขจะขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์ที่ฉีด หากเป็นฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่าฟิลเลอร์ปลอม โดยวิธีการแก้ไขมีดังนี้ครับ
ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน

เพื่อแก้ปัญหาฉีดใต้ตาเป็นก้อน
หากฟิลเลอร์ใต้ตาที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้ชนิดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์โดยใช้ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่สามารถช่วยละลายฟิลเลอร์อย่างปลอดภัย
หมอจะทำการประเมินปริมาณยาที่ต้องใช้ จากนั้นฉีดลงบริเวณที่เกิดก้อนฟิลเลอร์ โดยจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 2 วันหลังฉีด แต่ถ้าหากยังมีบางส่วนเหลืออยู่ หมอก็อาจพิจารณานัดมาฉีดซ้ำในครั้งถัดไปเพื่อแก้ไขจนหมด
ขูดเอาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนออก

ถ้าฟิลเลอร์ใต้ตาที่เคยฉีดมาเป็นฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคนเหลว, Polyamine (Aqualift), Hydrofilic gel ซึ่งไม่สามารถสลายออกได้เอง จำเป็นต้องใช้วิธีการ ขูดฟิลเลอร์ออก โดยหมอจะเปิดแผลเล็ก ๆ เพื่อเอาฟิลเลอร์ออก แต่ฟิลเลอร์ปลอมอาจขูดออกได้ไม่หมด อาจเอาออกได้เพียง 60-70% เท่านั้น เนื่องจากฟิลเลอร์พวกนี้มักเกาะติดกับเนื้อเยื่อ
หากฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนใหญ่และแข็ง อาจต้องใช้การ ผ่าตัด ซึ่งวิธีนี้ต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญในโรงพยาบาล เพราะบริเวณใต้ตามีเส้นเลือดและเส้นประสาทสำคัญจำนวนมาก
แก้ไขฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน ราคาเท่าไหร่ ?
ค่าฉีดสลาย Filler ใต้ตาเป็นก้อน เริ่มต้นที่ประมาณ 2,500 บาทต่อ 1 จุด โดยใต้ตาทั้ง 2 ข้างจะนับเป็น 1 จุด ราคานี้อาจปรับเปลี่ยนได้ตามปริมาณยาที่ใช้ และความยากง่ายของการแก้ไขในแต่ละเคสครับ
ส่วนกรณีขูดหรือผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออก ราคาเริ่มต้นที่หลักหมื่นขึ้นไปขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการทำและสถานที่ให้บริการ โดยขั้นตอนนี้จำเป็นต้องทำในโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐานภายใต้การดูแลของศัลยแพทย์ประสบการณ์สูงครับ
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีด Filler ไม่ให้ใต้ตาเป็นก้อน
การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวย ดูเป็นธรรมชาติ และลดความเสี่ยงการฉีดใต้ตาแล้วเป็นก้อนได้ โดยมีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้

- ห้ามบีบ นวด แกะ หรือเกาบริเวณที่ฉีด เพราะการสัมผัสแรง ๆ จะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งและเกิดเป็นก้อนได้
- งดทำกิจกรรมที่ทำให้ร้อนอย่างน้อย 2 วัน เช่น อาบน้ำร้อน ตากแดด ออกกำลังกายหนัก หรือเข้าซาวน่า เพราะความร้อนจะทำให้หน้าบวมมากขึ้น และอาจทำให้ฟิลเลอร์เตัวได้ไม่ดี
- ใน 3 วันแรก ควรระวังการขยับหน้าหรือเกร็งหน้ามากเกินไป เพราะฟิลเลอร์ยังไม่ยึดเกาะกับเนื้อเยื่อดี อาจเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
- นอนหงายยกหัวสูง หนุนหมอน 2 ใบ และใช้หมอนข้างกั้นไว้ทั้ง 2 ข้าง เพื่อป้องกันการนอนตะแคงกดทับใบหน้า ซึ่งอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
- ดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตรเป็นประจำ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่ดูดซับน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูสวย อยู่ทรงและเป็นธรรมชาติ
- งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ เพราะในบุหรี่และแอลกอฮอล์มีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ทำให้หายบวมช้า และฟิลเลอร์อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร
- กินยาที่แพทย์จ่ายให้ครบตามกำหนด เพื่อช่วยลดอาการบวม ช้ำ และป้องกันการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้
- งดทำเลเซอร์ที่ให้ความร้อนลึกถึงชั้นผิว เช่น RF หรือ Thermage อย่างน้อย 1 เดือน เพราะความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์ละลายเร็วกว่าปกติ และอาจเกิดเป็นก้อนได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ปลอดภัย ไม่เป็นก้อน ต้องพิจารณาอะไรบ้าง ?
เวลาจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัย และต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างเพื่อป้องกันปัญหาฉีดใต้ตาเป็นก้อน ซึ่งแนะนำให้ตรวจสอบ ดังนี้

- ต้องเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง ดูได้จากป้ายเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และใบอนุญาตประกอบกิจการ
- สถานที่สะอาด โปร่ง สว่าง มีห้องทำหัตถการกว้างขวาง อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก มีที่จอดรถ หรืออยู่ในห้างฯ เผื่อมีปัญหาจะได้มาติดต่อง่าย
- ต้องใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาแท้เท่านั้น เพราะฟิลเลอร์ปลอมอาจทำให้เกิดอันตรายและแก้ไขได้ยาก ควรขอดูกล่องและฉลากยาก่อนฉีดทุกครั้ง
- หมอต้องมีประสบการณ์สูงด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะบริเวณใต้ตาต้องใช้เทคนิคพิเศษ ควรดูผลงานก่อน-หลังของหมอให้ดี ทั้งการฉีดแก้ร่องลึกใต้ตา ถุงใต้ตา ใต้ตาคล้ำ และลดริ้วรอย เพื่อให้มั่นใจในฝีมือ
- มีการติดตามผลหลังทำ นัดดูอาการ และให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวก่อน-หลังทำอย่างละเอียด
- ควรอ่านรีวิวจากแหล่งที่เป็นกลาง เช่น Facebook หรือ Pantip และดูคลิปวิดีโอก่อน-หลังทำจริง ไม่ใช่แค่รูปถ่ายที่อาจแต่งได้
- มีช่องทางติดต่อสื่อสารหลายทาง โดยเฉพาะออนไลน์ เช่น Facebook หรือ Line ที่คนไข้สามารถถามหมอได้ตลอด
สรุปเรื่องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เป็นปัญหาที่เกิดได้จากการเลือกฉีดกับแพทย์ขาดประสบการณ์ ในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้ฟิลเลอร์ปลอม หากอยากหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับคลินิกที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ ใช้ฟิลเลอร์แท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงามไม่มีปัญหาตามมาหลังฉีดครับ