ฟิลเลอร์ Restylane
หลาย ๆ คนที่ตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ น่าจะคุ้นหูกับฟิลเลอร์ Restylane เป็นอย่างดีค่ะ เพราะเป็นฟิลเลอร์ยอดนิยมที่คลินิกความงามหลายแห่งให้ความไว้วางใจ ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย สามารถฉีดแก้ไขปัญหาได้ในหลายจุดบนใบหน้า
ใครที่อยากรู้จักกับฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ให้มากขึ้น ขอให้มารวมกันตรงนี้ค่ะ Goodlybeauty จะพาไปดูว่า ฟิลเลอร์ Restylane มีคุณสมบัติอย่างไร ? ใช้เทคโนโลยีใดในการผลิต ? มีกี่รุ่น ? ฉีดจุดไหนได้บ้าง ? ราคาเท่าไหร่ ? และตรวจสอบของแท้มีวิธีเช็กอย่างไร ?
สารบัญ ฟิลเลอร์ Restylane
ฟิลเลอร์ Restylane มีคุณสมบัติอย่างไร ? เปิด 2 เทคโนโลยีเอกสิทธิ์ของแบรนด์
ฟิลเลอร์ Restylane คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) จากประเทศสวีเดนค่ะ ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Galderma ถือได้ว่าเป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อแรกของโลก และมีความปลอดภัยมาก โดยผ่านการรับรองมาตรฐานจากหลายหน่วยงานต่าง ๆ เช่น U.S. FDA, CE Marks และอย.ไทย ทำให้ฟิลเลอร์เรสเทอเรนได้รับความนิยมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และถูกใช้งานแพร่หลายไปทั่วโลก
โดยฟิลเลอร์ Restylane มีจุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีหลายโมเลกุล ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีคุณสมบัติหลากหลาย และตอบโจทย์ปัญหาผิวที่แตกต่างกันของแต่ละคนได้ค่ะ ซึ่ง 2 เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ คือ

NASHA Technology
ฟิลเลอร์ Restylane ที่ผลิตด้วย NASHA Technology (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid Technology) เป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้เนื้อเจลของสาร HA มีความคงตัว เมื่อฉีดแล้วจะไม่ไหลไปยังบริเวณอื่น ๆ และยังป้องกันการเกิดอาการแพ้ ทำให้การฉีดฟิลเลอร์ Restylane มีความปลอดภัยมากค่ะ
นอกจากนี้ จุดเด่นของฟิลเลอร์ Restylaneอยู่ที่เนื้อเจลมีขนาดโมเลกุลหลากหลาย ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละรุ่น ทำให้สามารถฉีดฟิลเลอร์ Restylane เพื่อแก้ปัญหาได้ในหลายจุดของใบหน้า รวมถึงยังมีคุณสมบัติในการดึงโมเลกุลของน้ำมาเก็บไว้ในตัวฟิลเลอร์ ทำให้สามารถคงสภาพอยู่ในร่างกายได้นานถึง 6-12 เดือน
สำหรับฟิลเลอร์ Restylane รุ่นที่ผลิตด้วย NASHA Technology จะมาในกล่องบรรจุภัณฑ์สีขาว ได้แก่ Restylane Classic, Restylane Perlane Lyft, Restylane Vital, และ Restylane Vital Light
OBT Technology
OBT Technology (Optimal Balance Technology) เป็นอีกเทคโนโลยีการผลิตของฟิลเลอร์ Restylane ที่ได้รับการยอมรับไม่แพ้กับ NASHA Technology ทำให้เนื้อเจลของสาร HA มีความยืดหยุ่น แต่คงตัวได้ดี จึงสามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย เพื่อให้เหมาะกับการแก้ไขปัญหาการเติมเต็มในจุดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
สำหรับฟิลเลอร์ Restylane รุ่นที่ผลิตด้วย OBT Technology จะมาในกล่องบรรจุภัณฑ์สีกรม ได้แก่ Restylane Defyne, Restylane Refyne, Restylane Volyme และ Restylane Kysse
Filler Restylane 1 กล่องมีกี่ CC ?

Filler Restylane 1 กล่องจะมีปริมาณ 1 ไซริงค์ (Syringe) โดยในแต่ละไซริงค์จะบรรจุฟิลเลอร์ปริมาณ 1 CC โดยปริมาณนี้ถือว่าเป็นมาตรฐานที่เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาผิวในจุดเล็ก ๆ เช่น เติมเต็มร่องลึกบริเวณร่องแก้ม เพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากได้
อย่างไรก็ตาม หากต้องการแก้ไขปัญหาที่ต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณมาก เช่น การปรับรูปหน้าหรือเติมเต็มในหลายบริเวณ อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ Restylane มากกว่า 1 กล่อง ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ที่มากประสบการณ์เพื่อวางแผนการใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการในแต่ละบุคคลค่ะ
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ดีไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ Restylane เพื่อเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึก ถือเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ เนื่องจากเป็นหนึ่งในแบรนด์ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมและไว้วางใจจากแพทย์และผู้ใช้งานทั่วโลก ด้วยจุดเด่นที่สำคัญหลายประการ ดังนี้
- ความปลอดภัย : ฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่ได้รับการรับรองจาก FDA ทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย ผลิตภายใต้มาตรฐานระดับโลก
- คงผลลัพธ์ที่ยาวนาน : หลังฉีดฟิลเลอร์ Restylane ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นและบริเวณที่ฉีด
- ตัวเลือกที่หลากหลาย : ฟิลเลอร์ Restylane มีหลากหลายรุ่นที่เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น เติมเต็มร่องลึก เสริมโครงหน้า หรือฉีดเพิ่มเติมเต็มให้หน้าอิ่มน้ำ เรียบเนียนดูเด็กลง
- ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ : เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น ช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ Restylane ดูไม่แข็งทื่อ มีความเป็นธรรมชาติ
ดังนั้นฟิลเลอร์ Restylane จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า หรือใช้ฉีดเพื่อปรับรูปหน้าได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
Restylane ฟิลเลอร์ มียาชาไหม ?
Restylane ฟิลเลอร์ทุกรุ่นมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) อยู่ในเนื้อฟิลเลอร์ค่ะ เพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บในระหว่างการฉีด ทำให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกสบายมากขึ้น และลดความกังวลระหว่างทำหัตถการ โดยสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากด้านข้างของกล่องฟิลเลอร์ ซึ่งจะมีข้อความระบุว่า “Injectable Gel with Lidocaine”
ดังนั้นสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความเจ็บระหว่างการทำหัตถการ สามารถมั่นใจได้ว่า ฟิลเลอร์ Restylane ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า ตอบโจทย์ความต้องการในด้านความสะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ
ฟิลเลอร์ Restylane มีกี่รุ่น ? อยู่ได้นานแค่ไหน ?

ฟิลเลอร์ Restylane รุ่นที่นิยมใช้จะมีด้วยกัน 8 รุ่นค่ะ ซึ่งแต่ละรุ่นจะคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ปัญหาผิว และความต้องการของแต่ละคนได้
- Restylane Classic (อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ที่มีเจลอนุภาคขนาดใหญ่ เหมาะกับการฉีดในผิวชั้นลึก เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก นิยมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หรือฟิลเลอร์ใต้ตา
- Restylane Perlane Lyft (อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ที่มีความคงตัวสูง และคงรูปทรงได้ดีที่สุด ฉีดแล้วไม่ฟู เหมาะกับการฉีดทดแทนหรือเสริมกระดูก เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์จมูก และฟิลเลอร์กรอบหน้า
- Restylane Vital (อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด และเกลี่ยได้ง่าย หลังฉีดเนื้อฟิลเลอร์จะเรียบเนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติค่ะ เหมาะกับการใช้เก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้นบริเวณใต้ตา หรือหน้าผาก
- Restylane Vital Light (อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ มีความละเอียดมากที่สุด และอนุภาคของเนื้อเจลมีขนาดเล็ก นิยมฉีดเพื่อเก็บรายละเอียด หรือเติมความชุ่มชื้นในผิวชั้นตื้น เช่น ริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตา เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก หรือฉีดฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์
- Restylane Defyne (อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อทน ที่มีความยืดหยุ่นสูง และเนื้อนิ่มปานกลาง เหมาะกับการฉีดในผิวชั้นลึก เพื่อทดแทนกระดูกที่ทรุดตัว เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม หรือฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก
- Restylane Refyne (อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีความยืดหยุ่น เหมาะกับการฉีดแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกที่เกิดจากการยิ้ม เช่น ฟิลเลอร์ร่องแก้ม และฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก รวมถึงฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปากได้อีกด้วย
- Restylane Volyme (อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการฉีดเติมเต็มแอ่งลึกและบริเวณที่ตอบ ปรับให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น เช่น ขมับตอบ แก้มตอบ ร่องแก้ม และฉีดยกมุมปาก
- Restylane Kysse (อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัวสูง เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับริมฝีปากโดยเฉพาะ สามารถใช้สร้างขอบปาก หรือเพิ่มความอวบอิ่ม ปรับแก้ให้ริมฝีปากเป็นรูปทรงที่ต้องการ เช่น ปากกระจับ ปากสายฝอ หรือปากสายเกา รวมถึงยังช่วยเติมความชุ่มชื้น แก้ปัญหาปากแห้งทาลิปแล้วตกร่องอีกด้วย
ฟิลเลอร์ Restylane แต่ละรุ่น ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?

ฟิลเลอร์ Restylane แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่หลากหลายค่ะ จึงสามารถใช้ฉีดแก้ปัญหาได้หลายจุดบนใบหน้า เช่น
- Restylane Classic ฉีดเก็บรายละเอียดในผิวชั้นลึกบริเวณใต้ตา สำหรับเคสที่ผิวบาง หรือฉีดแก้ปัญหาริ้วรอยร่องแก้ม
- Restylane Perlane Lyft เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์เสริมคาง ฟิลเลอร์เสริมจมูก และฟิลเลอร์แก้มส้ม
- Restylane Vital เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และฟิลเลอร์หน้าผาก
- Restylane Vital Light เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้น หรือเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่ม
- Restylane Defyne เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม และฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก
- Restylane Refyne เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ร่องมุมปาก และฟิลเลอร์ปาก
- Restylane Volyme เหมาะสำหรับฉีดฟิลเลอร์ขมับตอบ ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม และฟิลเลอร์ร่องมุมปาก
- Restylane Kysse เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก
การเลือกว่าจะฉีดฟิลเลอร์ Restylane รุ่นไหนในตำแหน่งใด จะขึ้นอยู่กับสภาพผิว สภาพปัญหาบนใบหน้าที่เพื่อน ๆ กังวลใจ และเทคนิคการฉีดของแพทย์แต่ละท่านร่วมด้วยค่ะ ด้วยเหตุนี้จึงควรเข้ารับการประเมินใบหน้า และขอคำปรึกษากับคุณหมอที่มากประสบการณ์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งค่ะ
ฟิลเลอร์ Restylane ราคาเท่าไหร่ ?
สำหรับใครที่อยากเตรียมงบไว้ฉีดฟิลเลอร์ Restylane ราคามาตรฐานแต่ละรุ่นมีรายละเอียด ดังนี้
- Restylane Classic ราคาประมาณ 9,900 บาท / 1 CC
- Restylane Perlane Lyft ราคาประมาณ 12,500 บาท / 1 CC
- Restylane Vital ราคาประมาณ 16,900 บาท / 1 CC
- Restylane Vital Light ราคาประมาณ 12,000 บาท / 1 CC
- Restylane Defyne ราคาประมาณ 14,000 บาท / 1 CC
- Restylane Refyne ราคาประมาณ 12,000 บาท / 1 CC
- Restylane Volyme ราคาประมาณ 14,000 บาท / 1 CC
- Restylane Kysse ราคาประมาณ 14,900 บาท / 1 CC
ทั้งนี้ราคาค่าบริการฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกความงามแต่ละแห่งอาจแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ฉีด จุดที่ฉีด ปริมาณ CC ที่ใช้ และโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในช่วงนั้น ๆ ค่ะ
แต่ถ้าเจอราคาฟิลเลอร์ Restylane ที่ถูกกว่าราคามาตรฐานมาก ๆ อาจเสี่ยงเป็นฟิลเลอร์ของปลอม ที่ก่อให้เกิดอันตรายได้ ห้ามฉีดเด็ดขาดเลยนะคะ
ฟิลเลอร์ Restylane ของแท้ ตรวจสอบยังไง ?

การฉีดฟิลเลอร์ Restylane มีความปลอดภัยค่ะ แต่ต้องใช้ตัวยาของแท้ และนำเข้ามาอย่างถูกต้องเท่านั้น เพราะหากเป็นฟิลเลอร์หิ้วที่ลักลอบเข้ามาแบบผิดกฎหมาย การเก็บรักษาและขนส่งจะไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ตัวยาเสื่อมคุณภาพ อาจฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือร้ายแรงถึงขั้นเกิดผลข้างเคียงไม่พึ่งประสงค์ เช่น อาการแพ้ บวมแดง หรืออักเสบได้ค่ะ
โดยวิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์ Restylane ของแท้ มีจุดสังเกต ดังนี้
- เอกสารในกล่อง ด้านข้างกล่องจะมีเลขทะเบียนอย. และภายในกล่องฟิลเลอร์ Restylane จะมีเอกสารกำกับภาษาไทยค่ะ
- สติกเกอร์และรอยปรุ ต้องมีรอยปรุสำหรับเปิดกล่องฟิลเลอร์ และมีสติ๊กเกอร์โมโนแกรมจากบริษัท Galderma คำว่า “VOID”
- เลข Lot. ในทุกจุด เช่น ที่หลอดไซริงค์ ที่กล่อง และที่สติกเกอร์ จะต้องตรงกันทั้งหมด
- สแกนผ่านแอปพลิเคชัน สามารถใช้แอปพลิเคชัน Eztracker สแกน QR Code บริเวณกล่อง เพื่อตรวจสอบฟิลเลอร์ Restylane ของแท้ได้
- ติดต่อบริษัทนำเข้า สามารถนำเลข Lot. หรือชื่อคลินิกความงาม โทรไปสอบถามกับบริษัทกัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ได้ที่เบอร์ 02-023-1800 ต่อ 402
- เว็บไซต์ของบริษัทกัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด สามารถนำชื่อคลินิกความงามที่สนใจจะฉีดฟิลเลอร์ Restylane ไปใส่ในช่องค้นหาของหน้า “Find a Clinic” ได้เลยค่ะ ซึ่งจะแสดงข้อมูลว่าสถานพยาบาลนั้น ๆ มีผลิตภัณฑ์ใดของแบรนด์อยู่บ้าง
สรุปฟิลเลอร์ Restylane แบรนด์ดังยอดนิยม
ฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพราะมีคุณสมบัติที่หลากหลาย ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาใบหน้าได้หลายจุด และยังได้รับการรับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจากหลายหน่วยงานอีกด้วย
สำหรับใครที่อยากปรับรูปหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์ Restylane อย่าลืมเลือกคลินิกความงามที่น่าเชื่อถือ ฉีดกับคุณหมอประสบการณ์สูงเท่านั้น และเช็กฟิลเลอร์ของแท้ก่อนฉีดทุกครั้ง เพียงเท่านี้ทุกคนก็จะได้รับบริการที่ปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ต้องการแล้วค่ะ